มวยสากลสมัครเล่น ของ อำนาจ รื่นเริง

อำนาจเริ่มหัดมวยสากลสมัครเล่นภายในเรือนจำเมื่อปี พ.ศ. 2548 ได้เหรียญทองกีฬาราชทัณฑ์ 2 ปีซ้อน แล้วได้เหรียญทองรายการชิงแชมป์ประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2547 หลังจากที่คว้าเหรียญทองจากการแข่งขันชิงแชมป์ประเทศไทยได้ทั้งที่เจ้าตัวยังต้องโทษอยู่ในเรือนจำ จนกระทั่งได้รับการดึงตัวให้เข้ามาซ้อมร่วมทีมชาติในทันทีที่พ้นโทษ และเส้นทางชีวิตก็พลิกจากมุมมืดสู่ความสดใสทันที เพราะช่วงนั้นเป็นจังหวะที่ สุบรรณ พันโนน นักมวยมือหนึ่งทีมชาติไทยมีปัญหาบาดเจ็บจนต้องถอนตัวจากทีมชาติ จึงทำให้อำนาจได้กลายเป็นนักมวยทีมชาติตัวจริงทันที และยึดตำแหน่งเอาไว้อย่างเหนียวแน่น

อำนาจ ถือเป็นนักมวยที่มีพรสวรรค์และทักษะลีลาดี สามารถปรับทักษะจากมวยไทยมาเป็นมวยสากลสมัครเล่นได้อย่างรวดเร็ว เคยสร้างชื่อเสียงมาแล้วด้วยการสามารถเอาชนะ โจว ซื่อหมิง (เจ้าของเหรียญทองในรุ่นไลท์ฟลายเวท โอลิมปิก 2008 และโอลิมปิก 2012 และแชมป์มวยสากลสมัครเล่นโลก 3 สมัย) นักมวยชาวจีนในรายการคิงส์คัพ ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ก่อนจะเดินทางไปคว้าเหรียญทองแดงจากการแข่งขันเวิลด์แชมเปี้ยนชิพที่สหรัฐอเมริกามาได้สำเร็จ ซึ่งนั่นก็ทำให้อำนาจได้รับรางวัล "นักกีฬาหน้าใหม่ยอดเยี่ยม สยามกีฬาอวอร์ดส์" มาครองได้อย่างน่าทึ่ง [5]

โอลิมปิก 2008

ก่อนการแข่งขัน อำนาจได้รับการจัดอันดับจากนิตยสารไทม์ว่าเป็น 1 ใน 100 นักกีฬาที่น่าจับตามองในการแข่งขันโอลิมปิกครั้งนี้[6] ในรอบแรกอำนาจเอาชนะ แจ็ค วิลลี่ นักมวยปาปัวนิวกินีไปได้ 14-2 หมัด ในรอบสองเอาชนะ เนสตัน มอนเตโร่ จากโดมินิกัน ขาดลอย 7-3 หมัด แต่ในรอบชิงเหรียญทองแดงอำนาจเป็นฝ่ายแพ้ให้กับ เซอร์ดัมบา ปูเรฟดอร์จ นักมวยมองโกเลีย (ต่อมาได้ชิงเหรียญทองแต่แพ้ให้กับ โจว ซื่อหมิง) ไป 3-5 หมัด ซึ่งการชกครั้งนี้ได้รับการวิจารณ์อย่างกว้างขวางว่าอำนาจชกแล้วคะแนนไม่ขึ้น พร้อมทั้งมีการตั้งข้อกังขาเรื่องการให้คะแนนของกรรมการด้วย[7]

หวนมาชกมวยสากลสมัครเล่นอีกครั้ง

หลังจากเสียแชมป์โลกมวยสากลอาชีพไปแล้วไม่นาน อำนาจได้เข้าค่ายฝึกซ้อมด้วยตนเองต่อที่จังหวัดอุทัยธานี ซึ่งเป็นบ้านของภรรยา อำนาจได้ตัดสินใจหวนกลับมาชกมวยสากลสมัครเล่นอีกครั้ง โดยมีเป้าหมายอยู่การติดทีมชาติเข้าแข่งขันโอลิมปิก 2016 ที่ประเทศบราซิล ทั้งนี้เพราะสหพันธ์มวยสากลสมัครเล่นนานาชาติ (AIBA) ได้เปลี่ยนกติกาให้นักมวยสากลอาชีพ สามารถเข้าร่วมชกในรายการแข่งขันของมวยสากลสมัครเล่นได้ ถึงแม้ว่าจะมีเสียงคัดค้านจากสถาบันมวยสากลอาชีพต่าง ๆ ก็ตาม โดยเข้าร่วมการแข่งขันคัดตัวที่โฮเซมาเรียบาร์กัสโดม รัฐบาร์กัส ประเทศเวเนซุเอลา ซึ่งถือเป็นการคัดตัวรอบสุดท้าย โดยเป็นการคัดเลือกในโควต้านักมวยสากลอาชีพ ในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2559 และได้เลื่อนน้ำหนักขึ้นเป็นรุ่นไลท์เวท เนื่องจากไม่สามารถทำน้ำหนักให้อยู่ในพิกัดฟลายเวทได้อีกแล้ว[8]

และอำนาจก็ทำได้สำเร็จเมื่อขึ้นชกเพียง 2 ครั้ง ก็ได้สิทธิไปแข่งขันโอลิมปิก โดยในรอบที่ 2 สามารถเอาชนะ คาร์มีเน ตอมมาโซเน นักมวยชาวอิตาลีไปได้ ด้วยคะแนนเป็นเอกฉันท์ 0-3 โดยถือเป็นนักมวยไทยคนที่ 5 และคนสุดท้ายที่ได้สิทธิ์ในการแข่งขันโอลิมปิกคราวนี้ [9]

ในรอบชิงชนะเลิศกับ ลินดอลโฟ เดลกาโด กราซา นักมวยชาวเม็กซิกัน อำนาจเป็นฝ่ายแพ้ทีเคโอไปก่อนขึ้นยกที่ 2 เนื่องจากขอยอมแพ้ จากการมีอาการเจ็บที่หัวไหล่ซ้าย จึงได้เหรียญเงิน [10]

โอลิมปิก 2016

ดูบทความหลักที่: กีฬามวยสากลสมัครเล่นในโอลิมปิกฤดูร้อน 2016

ในรอบแรก หรือรอบ 32 คน อำนาจขึ้นชกในมุมแดง พบกับ อิกนาซิโอ เปร์ริน นักมวยชาวอาร์เจนตินา อำนาจเป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ 3-0 เสียง ด้วยคะแนน 30-27, 29-28 และ 30-27[11]

ในรอบที่สอง อำนาจขึ้นชกในมุมน้ำเงิน พบกับ โซฟิยาน อูมิอา นักมวยชาวฝรั่งเศส ที่อายุน้อยกว่าและช่วงชกได้เปรียบกว่า อำนาจเป็นฝ่ายถูกนับ 8 ถึง 2 ครั้งในยกที่ 2 และเป็นฝ่ายแพ้ทีเคโอไปในยกที่ 3 ตกรอบเป็นคนแรกของทีมมักมวยไทย[12]

แหล่งที่มา

WikiPedia: อำนาจ รื่นเริง http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/641385#s... http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/680412 http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/706263 http://boxrec.com/en/boxer/613659 http://news.ch7.com/detail/59074/%E0%B8%AD%E0%B8%B... http://www.global-report.com/sport/a335935-%E0%B8%... http://sport.mthai.com/boxing/222300.html http://football.sanook.com/olympic08/scoop_22399.p... http://www.smmsport.com/reader.php?news=179263 http://www.youtube.com/watch?v=h2ulK5oTXaE#t=20